รู้หรือไม่ว่า SSD ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้น

รู้หรือไม่ว่า SSD ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้น

รู้หรือไม่ว่า SSD ทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานเร็วขึ้น

ฮาร์ดดิสก์ SSD หรือ Solid State Drive เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ใช้เทคโนโลยีหน่วยความจำแบบอเนกประสงค์ (NAND flash memory) เพื่อเก็บข้อมูลในรูปแบบไม่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวภายในอุปกรณ์ (เช่นดิสก์หมุน) ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพและความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูงกว่าฮาร์ดดิสก์ทั่วไปที่ใช้พลาตวามเหลวหมุน

SSD มีข้อดีหลายประการ เช่น ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลที่เร็วกว่า การทำงานเงียบสงบมากขึ้น เสถียรภาพในการทำงานที่ดี เหมาะสำหรับใช้ในการเล่นเกมหรือการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การแก้ไขวิดีโอหรือการแก้ไขภาพในรูปแบบที่ใหญ่โต และยังมีความปลอดภัยของข้อมูลที่ดีกว่าหลายเท่า เนื่องจาก SSD ไม่มีอะไรที่เคลื่อนไหวภายในอุปกรณ์.

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียหลักของ SSD คือราคาที่สูงกว่าฮาร์ดดิสก์ทั่วไป และจำกัดความจุของข้อมูลบางส่วน เนื่องจากต้องมีการจัดการช่องทางการเขียนข้อมูลให้เป็นรูปแบบที่เหมาะสม เพื่อรักษาความเร็วและอายุการใช้งานของ SSD ให้มากที่สุด.

ประเภทของฮาร์ดดิสก์ SSD ที่มีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้:

    1. SATA SSD: เป็น SSD ที่เชื่อมต่อกับเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ผ่านสาย SATA มีความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลสูง แต่มีความจุที่จำกัด มักใช้สำหรับการอัปเกรดฮาร์ดดิสก์ในเครื่องคอมพิวเตอร์เก่า.

    2. NVMe SSD: อ้างถึง SSD ที่เชื่อมต่อผ่าน PCIe (PCI Express) เป็นอุปกรณ์ที่มีความเร็วสูงที่สุดในปัจจุบัน มีความเหมาะสำหรับใช้ในงานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น การเล่นเกมหรือการทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่.

    3. M.2 SSD: มีขนาดเล็กและเชื่อมต่อผ่านพอร์ต M.2 บนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ มักมีความเร็วสูงและเหมาะสำหรับใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์พอร์ตเบิร์น และโน้ตบุ๊ก.

    4. 2.5-inch SSD: มีขนาดเล็กเหมือนกับฮาร์ดดิสก์ธรรมดาแบบ 2.5 นิ้ว แต่ใช้เทคโนโลยี SSD มีความเหมาะสำหรับใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์พอร์ตเบิร์น หรือในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีพื้นที่จำกัด.

    5. PCIe SSD Card: เป็นการติดตั้ง SSD ในรูปแบบการ์ด PCIe ซึ่งสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของระบบได้ด้วยการเพิ่มการ์ดเหล่านี้เข้าไปในช่อง PCIe ว่างบนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์.

การเลือกประเภทของฮาร์ดดิสก์ SSD ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของคุณ เช่น หากคุณต้องการประสิทธิภาพสูงและความเร็ว คุณอาจพิจารณาเลือก NVMe SSD ในขณะที่ถ้าคุณต้องการความพอเพียงและราคาที่เหมาะสม คุณสามารถเลือก SATA SSD หรือ M.2 SSD ก็ได้ การเลือกขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณของคุณในที่สุด.

การเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์เป็น SSD สามารถทำได้โดยการทำขั้นตอนต่อไปนี้:

ก่อนจะเพิ่มหรือเป็นฮาร์ดดิสของคุณให้เป็น SSD แนะนำให้คุณเช็กหรือตรวจสอบกับช่างผู้เชี่ยวชาญก่อน ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณสามารถเพิ่มหรือเปลี่ยนได้หรือไม่หากได้ ให้ช่างแนะนำหรือทำการเปลี่ยนให้จะดีกว่า แต่ในปัจจุบันหากเป็นคอมพิวเตอร์จากยี่ห้อชั้นนำจะมี แบบที่เป็น SSD มาให้ได้เลือกใช้งานได้แล้ว

    1. สำรองข้อมูล: ก่อนที่คุณจะเริ่มกระบวนการเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์ เพื่อความปลอดภัยควรสำรองข้อมูลทั้งหมดจากฮาร์ดดิสก์ปัจจุบันของคุณไปยังตำแหน่งอื่น เช่น ฮาร์ดดิสก์ภายนอกหรือบนคลาวด์เซอร์วิส.

    2. เตรียม SSD: ในขณะเดียวกันที่คุณสำรองข้อมูล คุณควรเตรียม SSD ที่คุณจะใช้ในการสับเปลี่ยน โดยการตรวจสอบว่ามันเชื่อมต่อได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ และมีโปรแกรมสำหรับโอนข้อมูลจากฮาร์ดดิสก์เก่าไปยัง SSD (บาง SSD มักจะมาพร้อมกับซอฟต์แวร์เช่น Acronis True Image หรือ Samsung Data Migration สำหรับช่วยในกระบวนการนี้).

    3. โอนข้อมูล: ใช้โปรแกรมโอนข้อมูลที่เตรียมไว้เพื่อโอนข้อมูลทั้งหมดจากฮาร์ดดิสก์เก่าไปยัง SSD อาจใช้เวลาตั้งแต่ไม่กี่นาทีถึงหลายชั่วโมงขึ้นอยู่กับปริมาณข้อมูล.

    4. ตรวจสอบการเชื่อมต่อ: เมื่อข้อมูลถูกโอนเสร็จสิ้น ตรวจสอบว่า SSD ถูกติดตั้งให้ถูกต้องและเชื่อมต่ออย่างเหมาะสมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ.

    5. ทดสอบ: รันการทดสอบเบื้องต้นเพื่อให้แน่ใจว่าระบบทำงานได้ถูกต้องหลังจากการเปลี่ยน SSD.

    6. กู้คืนข้อมูล: หากมีข้อมูลที่ไม่ได้ถูกโอนมายัง SSD คุณอาจต้องกู้คืนข้อมูลจากการสำรองข้อมูลที่คุณทำไว้ก่อนจากฮาร์ดดิสก์เก่า.

หลังจากที่คุณทำขั้นตอนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว คุณจะพร้อมที่จะใช้งาน SSD ใหม่และเพลิดเพลินกับประสิทธิภาพและความเร็วที่มันนำเสนอให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ!

ยี่ห้อที่นิยมได้แก่  WD (Western Digital)  Seagate  Samsung Transcend